การวางแผนเส้นทางอาชีพระยะยาวจาก VP สู่ C-level ด้วย LinkedIn
- Beyond Digital
- 6 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 8 ส.ค.
การวางแผนเส้นทางอาชีพระยะยาวจาก VP สู่ C-level ด้วย LinkedIn
การเติบโตจากตำแหน่ง Vice President ไปสู่ระดับ C-suite ไม่ใช่เรื่องของโชคหรือการรอโอกาสเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการวางแผนที่มีเป้าหมายชัดเจน การสื่อสารอย่างมีกลยุทธ์ และการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ LinkedIn กลายเป็นเวทีสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และคอนเนคชันระดับมืออาชีพ ถ้าเป้าหมายของคุณคือการเติบโตทั้งในตลาดประเทศไทยและเวทีระดับสากล การใช้ LinkedIn อย่างถูกวิธีจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปูทางสู่ตำแหน่งผู้นำองค์กรในอนาคต

สร้างตัวตนผู้นำ (Thought Leadership) ที่แข็งแกร่งบน LinkedIn
LinkedIn ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสำหรับโพสต์เรซูเม่ แต่เป็นช่องทางในการสะท้อนความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์ของคุณ การมีโปรไฟล์ที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ และสื่อถึงตัวตนในแบบมืออาชีพ จะช่วยให้ผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจขององค์กรต่างๆ มองเห็นศักยภาพของคุณมากยิ่งขึ้น การเขียนหัวข้อโปรไฟล์ที่บ่งบอกถึงบทบาทผู้นำ การแชร์ความคิดเชิงธุรกิจ และการใช้ตัวเลขหรือผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับภาพลักษณ์ของคุณ ทั้งนี้สถิติบอกว่า ผู้ใช้ LinkedIn 65 ล้านคนเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจขององค์กร ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังสื่อสารกับคนที่สามารถ “เปิดประตู” โอกาสให้คุณได้จริง
พัฒนาความน่าเชื่อถือในระดับสากล
การเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากคนในวงการไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากการแสดงออกอย่างสม่ำเสมอถึงมุมมองที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่ความคิดดีๆ สามารถส่งต่อได้ในวงกว้าง การเขียนบทความให้ความรู้ แสดงความคิดเห็นที่มีเหตุผล และการเล่าประสบการณ์ตรงจากการแก้ปัญหาใหญ่ๆ ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวตนของคุณในสายตาคนอื่น ข้อมูลจากการวิจัยพบว่านักการตลาด B2B โพสต์แนว Thought Leadership ถูกแชร์มากกว่าถึง 3 เท่า นั่นหมายความว่า การสร้าง thought leadership คือกลยุทธ์ที่ผู้นำทั่วโลกกำลังใช้ในการยกระดับตัวเอง

สร้างคอนเนคชันกับคนที่มีผลต่ออนาคตคุณ
การสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์บน LinkedIn ไม่ใช่เรื่องของการสะสมจำนวนคอนเนคชัน แต่เป็นการเชื่อมโยงกับคนที่สามารถเปิดประตูโอกาสให้กับคุณจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมเดียวกัน หัวหน้าแผนกสรรหาผู้บริหาร (headhunter) กรรมการบริษัท หรือที่ปรึกษาองค์กร การส่งข้อความแบบเฉพาะเจาะจงแทนการใช้ข้อความสำเร็จรูป การแสดงความสนใจในผลงานหรือมุมมองของอีกฝ่าย และการแบ่งปันข้อมูลที่มีประโยชน์ เป็นวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน การเข้าร่วมสัมมนาระดับสากลหรือกิจกรรม networking ต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างคอนเนคชันกับคนสำคัญเช่นกัน
วางแผนระยะยาวและวัดผลอย่างมีระบบ
การสร้าง personal brand ที่แข็งแกร่งไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ต้องอาศัยการทำงานต่อเนื่องประมาณ 6-12 เดือน ตามคำแนะนำของ Beyond Digital โดยแผนการทำงานในระยะ 12 เดือนอาจเริ่มจาก
การปรับโปรไฟล์ให้ครบถ้วนและน่าสนใจในช่วง 1-3 เดือนแรก โปรไฟล์ที่มีการรับรองทักษะหลายรายการ จะได้รับการเข้าชมจาก Recruiter มากขึ้นถึง 17 เท่า พร้อมทั้งโพสต์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงคอนเนคกับคนในวงเดิม
หลังจากนั้นในเดือนที่ 4-6 อาจเริ่มเขียนบทความลึกซึ้งเกี่ยวกับธุรกิจ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนในกลุ่มคนทำงาน และขยายคอนเนคชันไปยังผู้บริหารระดับสูง
เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 7-9 คุณอาจเริ่มได้รับเชิญให้พูดในงานสัมมนา มีคนแชร์คอนเทนต์ของคุณมากขึ้น หรือได้รับการติดต่อจากบริษัทหรือ headhunter
และในช่วงเดือนที่ 10-12 คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์จากการลงทุนเหล่านี้ เช่น การได้รับข้อเสนองานระดับสูง หรือการได้รับการยอมรับว่าเป็น thought leader ในสายงานของคุณ

ยกระดับความเป็นผู้นำเพื่อความสำเร็จระดับโลก
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การจะเป็น C-level ที่โดดเด่นได้นั้น ต้องมีทักษะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำยุคดิจิทัล ความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนองค์กร และสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบใหม่ พร้อมทั้งต้องเข้าใจการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม รู้จักบริหารทีมที่มีความหลากหลายทางภูมิหลังและความคิด รวมถึงมีความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์ วิเคราะห์แนวโน้มตลาด และวางแผนที่ยั่งยืนในระยะยาว ที่สำคัญต้องรู้จักบริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ให้สามารถเดินหน้าร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายของผู้นำยุคใหม่
บทบาทของผู้นำในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและสังคม ดังนั้น การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎระเบียบใหม่ๆ หรือทักษะในการตัดสินใจในสภาวะที่ข้อมูลไม่สมบูรณ์ ผู้นำต้องสามารถรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ การสร้างผลกระทบในระยะยาวที่เป็นบวกต่อองค์กร พนักงาน และสังคม คือสิ่งที่ผู้นำระดับสูงควรให้ความสำคัญ เพราะนั่นคือ “มรดก” ที่คุณจะฝากไว้ให้กับโลกธุรกิจ
สรุป: เส้นทางสู่ C-level คือการเดินทางระยะไกล
การก้าวจาก VP สู่ C-level เปรียบเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น ต้องอาศัยความต่อเนื่อง การวางแผน การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง การใช้ LinkedIn อย่างมีกลยุทธ์จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง การเชื่อมโยงกับคนที่ใช่ และการยกระดับทักษะที่ตอบโจทย์โลกธุรกิจในอนาคต ความสำเร็จในตำแหน่งผู้นำระดับสูงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถอย่างเดียว แต่รวมถึงความตั้งใจ การลงมือทำ และการลงทุนในตัวเองอย่างชาญฉลาดตั้งแต่วันนี้
พร้อมเปลี่ยนเส้นทางอาชีพสู่ระดับ C-level อย่างมั่นใจหรือยัง
ติดต่อ Beyond Digital วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี! ร่วมวางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์บน LinkedIn, ปรับโปรไฟล์มืออาชีพ และเชื่อมต่อโอกาสระดับผู้บริหารทั่วโลกกับ Certified LinkedIn Strategist ตัวจริงเพียงกรอกฟอร์มนี้
ความคิดเห็น